โยคะ เบื้องต้น 10 ท่า: ให้เริ่มต้นจากที่ไหน?!

1. รู้จักโยคะ

โยคะ เป็นศาสนาและปรัชญาชาวอินเดีย ที่เน้นการปฎิบัติตนและการควบคุมจิตใจ โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ชีวิตที่มีความสุข โยคะ ประกอบด้วยท่าฝึกหัตถการต่าง ๆ ทั้งท่าสมาธิ ท่าประชุมพุทธาภิเษก ท่าขุนพลอดกลาง และอื่น ๆ ซึ่งการฝึกโยคะมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจของผู้ฝึกอย่างมาก

2. ประโยชน์ของโยคะ

การฝึกโยคะมีประโยชน์มากมายทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ต่อไปนี้คือประโยชน์ของการฝึกโยคะ:

– ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง: การฝึกโยคะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถต้านทานโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

– ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย: การฝึกโยคะช่วยปรับสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ โดยช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลที่สะสมอยู่ในร่างกาย

– ช่วยให้จิตใจสงบ: การฝึกโยคะช่วยลดความวิตกกังวล ช่วยทำให้จิตใจสงบและสามารถเข้าถึงสภาวะความสงบในใจได้ง่ายขึ้น

– ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของพลังงานในร่างกาย: การฝึกโยคะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของพลังงานในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีพลังงานมากขึ้นและรู้สึกสดชื่น

3. แนวคิดของโยคะ

แนวคิดของโยคะเน้นความสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ โยคะเชื่อว่าการฝึกโยคะช่วยให้เรารู้จักและเข้าใจตนเองได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่แตกต่างได้อย่างมีสติ

4. รูปแบบการฝึกโยคะ

รูปแบบการฝึกโยคะสามารถแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึงรูปแบบการฝึกโยคะเบื้องต้น โดยรวมแล้ว การฝึกโยคะเบื้องต้นจะประกอบด้วยการฝึกท่าโยคะที่เรียกว่าพื้นฐาน และการฝึกอาสนะที่เหมาะสมสำหรับผู้ฝึกใหม่

5. ควรเตรียมอะไรก่อนฝึกโยคะ

ก่อนฝึกโยคะคุณควรเตรียมตัวและสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรเตรียมก่อนฝึกโยคะ:

– สวมเสื้อผ้าที่สบาย: คุณควรสวมเสื้อผ้าที่ไม่ทำให้คุณรู้สึกหวาดระแวงและทำให้คุณสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก

– ห้องที่เงียบสงบ: คุณควรหาที่ฝึกที่มีความเงียบสงบ เพื่อให้คุณสามารถพักผ่อนและสะสมพลังงานได้อย่างเต็มที่

– พื้นที่สำหรับฝึก: คุณควรเตรียมพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกโยคะ เช่น พื้นห้องหรือพื้นสำหรับท่านั่ง

6. ท่าโยคะเบื้องต้น 1: ท่าสมาธิ

ท่าสมาธิเป็นท่าโยคะที่เป็นท่าเบื้องต้นที่สุด และเป็นท่าที่ใช้ในการปฏิบัติโยคะเป็นหลัก ต่อไปนี้คือขั้นตอนการทำท่าสมาธิ:

1. นั่งบนพื้นโดยใช้ที่นั่งที่สูงเหมาะสม หรือสามารถนั่งบนเสื่อหรือเพดานได้

2. วางมือบนเข่าทั้งสองข้าง ให้มือเป็นแนวเดียวกับตัวในทิศทางเดียวกัน

3. รู้สึกการหลงไปกับลมหายใจ ให้รู้สึกตัวของลมหายใจเข้า-ออกจากลมหายใจ และสังเกตรูปและรสชาติของลมหายใจ

4. รู้สึกการเคลื่อนไหวของร่างกาย ให้รู้สึกการเคลื่อนไหวของร่างกายเมื่อทำการหายใจ และมีความสัมพันธ์กับการหายใจ

5. รู้สึกการหลุดตัว ให้รู้สึกจิตใจที่มีความสงบโดยรู้สึกถึงจิตใจที่หลุดตัวจากกิจกรรมต่าง ๆ

6. ใช้จิตใจในการเลือกภาพ ให้ใช้จิตใจในการสร้างภาพในจิตใจ ซึ่งทำให้สามารถสร้างภาพที่ธรรมชาติได้

7. สังเกตการเกิดความคิดและอารมณ์ ให้สังเกตการเกิดความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้น และไม่สนใจหรือตอบสนองต่อความคิดและอารมณ์เหล่านั้น

8. ปล่อยจิตใจ ให้ปล่อยจิตใจให้ไปตามสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่มีการตอบสนองต่อสิ่งเหล่านั้น

9. ยังคงทำตามขั้นตอนข้างต้นเป็นเวลาหนึ่งปีปฏิบัติ และจะมีการกำหนดค่าเริ่มต้นใหม่

7. ท่าโยคะเบื้องต้น 2: ท่าพุทธาภิเษก

ท่าพุทธาภิเษกเป็นท่าโยคะที่ใช้ในการปฏิบัติโยคะเป็นท่าที่สอง ต่อไปนี้คือขั้นตอนการทำท่าพุทธาภิเษก:

1. นั่งบนพื้นโดยใช้ที่นั่งที่สูงเหมาะสม หรือสามารถนั่งบนเสื่อหรือเพดานได้

2. วางมือธนูข้างหนึ่งบนเข่า และวางมืออีกข้างหนึ่งบนมือธนูที่วางอยู่บนเข่า

3. เชือบเข้าสา7807005กับตัว และวางศีรษะให้ตรง

4. ใช้สายตาที่สามารถนิ่งได้ดียิ่งขึ้น และเปลี่ยนทิศทางการดูสิ่งต่าง ๆ

5. รู้สึกการหลุดตัว ให้รู้สึกถึงจิตใจที่หลุดตัวจากกิจกรรมต่าง ๆ

6. รู้สึกการหลั่งพลังงานออกมาจากสะสวยเกลียวว่าเป็นก๊าซ ที่เต็มไปด้วยพลังงานเต็มที่

7. สังเกตการเกิดความคิดและอารมณ์ ให้สังเกตการเกิดความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้น

8. ปล่อยจิ

ท่าโยคะ (Yoga poses) เป็นการออกกำลังกายที่มาจากประเทศอินเดีย และมีบทบาทสำคัญในการปรับสมดุลของร่างกาย นอกจากร่างกายฟิตเนื่องจากการทำท่าโยคะยังช่วยสลายความแออัด อ่อนคับถ่อมโรคต่าง ๆ และสร้างสมดุลระหว่างจิตใจและร่างกาย ซึ่งท่าโยคะพื้นฐาน 15 ท่า จะเป็นเรื่องที่คุณควรรู้หากเป็นมือใหม่ที่กำลังสนใจในการฝึกโยคะ

ท่าโยคะระบบงาม (Alignment-based yoga poses) มีความสำคัญในการรักษาความมั่นคงของร่างกายในขณะที่ปฏิบัติโยคะ ซึ่งการวางแกนกลาง (Foundation) เป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ร่างกายสามารถยืดหยุ่นและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากคุณเพิ่งเริ่มใช้งานโยคะคุณอาจจำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยท่าโยคะพื้นฐาน 15 ท่าเหล่านี้:

1. ท่าตั้ง Tadasana (Mountain Pose): ท่านี้เป็นท่าที่จะช่วยให้คุณรู้สึกถึงความมั่นคงของร่างกายและสร้างการเชื่อมต่อระหว่างร่างกายและทิศทางที่คุณแบ่งให้ความสำคัญ

2. ท่าของเรา Bidalasana (Cat-Cow Pose): ท่านี้ช่วยให้คุณฝึกใช้กระดูกสันหลังในขณะเคลื่อนไหวซึ่งสามารถช่วยเพิ่มระยะการเคลื่อนไหวและรู้สึกถึงเสมอภาคของร่างกายได้

3. ท่าต่อเนื่อง Vrikshasana (Tree Pose): มีประโยชน์ต่อการมั่นคงภายในร่างกายและลดความเครียด ส่วนสีดโคนเคล็ดลับในการออกกำลังกาย เช่น การดันเส้นไฟในขณะที่ยืนด้วยท่านี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของขา

4. ท่าม้า Marjaryasana (Cow Pose) และท่าแมว Bitilasana (Cat Pose): คู่สองท่านี้สามารถช่วยให้คุณควบคุมการหายใจและยืดกล้ามเนื้อบริเวณหลังและสันหลังได้อย่างรวดเร็ว

5. ท่าด้านเอียง Surya Namaskar (Sun Salutation): ท่านี้เป็นการผสานผสมของหลากหลายท่าโยคะ ช่วยให้คุณควบคุมการหายใจและเปิดสมอง ส่วนกระดูกสันหลังจะถูกยืดหยุ่น

6. ท่ากล้ามหน้าอก Bhujangasana (Cobra Pose): การทำท่านี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงในกล้ามเนื้อหน้าอกและหลังในขณะที่ยืดกล้ามเนื้อที่แขน นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการยืดกล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลัง

7. ท่าสุนทรียบาล Balasana (Child’s Pose): ท่านี้เป็นท่าที่ช่วยทำให้คุณรู้สึกสบายและส่งเสริมการหายใจลึก

8. ท่าวาด Little Thunderbolt Pose: ท่านี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อในขณะที่ยืดหยุ่นกระดูกสันหลังเรียบเรียง นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณมีสมองที่สว่างไสวและเปิดเผยในอารมณ์รู้สึก

9. ท่าม้าสายตา Svanasana (Downward-Facing Dog Pose): ช่วยยืดกล้ามเนื้อและกระดูกรักษาที่สะดวกสบายและมีรอยยิ้มอยู่ในแวดล้อม

10.แนวบิน Uttanasana (Standing Forward Bend Pose): ท่านี้ช่วยขยายกล้ามเนื้อหลังและนอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถยืดเงินหลักกระดูกสันหลังได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณมีสมองที่ใสใจและช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี

11. ท่ากิจพยากรณ์ Paschimottanasana (Seated Forward Bend Pose): การทำท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลัง ลำตัว และขา และช่วยดับความสะอึกกร่อนคอ

12.ท่าช้อนแก้ว Mayurasana (Peacock Pose): ท่านี้ช่วยกำจัดพิษหรือสารตกค้างในตับและไต

13.ท่าผูกขา Dhanurasana (Bow Pose): ท่านี้ช่วยืดกล้ามเนื้อ ส่วนภายในและช่วยแก้ปัญหาปวดหลัง

14.ท่าเก้าอี้ผู้หญิง Utkatasana (Chair Pose): ท่านี้ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อขาเรียบเรียง

15.ท่ากระปูโยคะ Setu Bandhasana (Bridge Pose): ท่านี้ช่วยกำจัดการกล้ามเนื้อเส้นท่อกระเพาะอาหารและช่วยเสริมสร้างกระเพาะอาหารและตับ

นี่คือ 15 ท่าโยคะพื้นฐานที่คุณสามารถฝึกได้ในบ้าน ต่อไปคือ FAQ หรือคำถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับโยคะ:

คำถามที่ 1: การฝึกโยคะจำเป็นต้องมีสถานที่ที่เฉพาะเจาะจงเพื่อปฏิบัติหรือไม่?
คำตอบ: ไม่จำเป็นต้องมีสถานที่เฉพาะเพื่อฝึกโยคะ คุณสามารถฝึกโยคะได้ที่บ้านหรือในพื้นที่ที่เงียบสงบเพียงพอ

คำถามที่ 2: ฉันควรฝึกโยคะกี่ครั้งในหนึ่งสัปดาห์?
คำตอบ: การฝึกโยคะควรประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ คุณสามารถฝึกโยคะได้วันละ 2-3 ครั้ง แต่แนะนำว่าให้ฝึกโยคะอย่างน้อยสัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง

คำถามที่ 3: ท่าโยคะที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาของความอักเสบเส้นประสาทคืออะไร?
คำตอบ: ท่าโยคะที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาของความอักเสบเส้นประสาทเช่นปวดหลังคือ ท่าโยคะเตรียมใจและท่าโยคะโลตัส

หวังว่าบทความนี้จะช่วยแนะนำและกำลังใจให้คุณเริ่มต้นฝึกโยคะได้อย่างถูกต้องและอย่างปลอดภัย อย่าลืมปรึกษาครูโยคะหรือนักประพันธ์โยคะมืออาชีพหากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเรื่องโยคะ

ท่าโยคะเบื้องต้นสำหรับผู้ที่สนใจสุขภาพจิตและร่างกาย

ท่าโยคะเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นเสมือนวิถีชีวิตของชาวอินเดียมาแสนวันแล้ว โดยเฉพาะท่าโยคะเบื้องต้นมักจะเป็นเรื่องไวโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนร่างกายและให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของตัวเอง ท่าโยคะเบื้องต้นเป็นท่าที่ง่ายต่อการฝึกฝนและสามารถทำได้ทั้งเย็นแต่กลางวันหรืออยู่ที่บ้าน

การฝึกโยคะเบื้องต้น หมายถึงการฝึกฝนสร้างสุขภาพกายและจิตให้แข็งแกร่ง มีกิจกรรมในการขยับร่างกายรอบท้องผู้ฝึกฝนและการหายใจอย่างช้าๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและใจสมานฉ่ำฉี่ การทำท่าโยคะเบื้องต้นอาจช่วยลดความเครียด สร้างความผ่อนคลายแก่อารมณ์ บวกกับการเพิ่มความนิ่งใจ ที่ส่งผลให้ความตั้งใจและตอบสนองสามารถปรับตัวและกลับสู่สภาวะที่มั่นคงได้ง่ายขึ้น

โยคะเบื้องต้นเป็นกิจกรรมที่ใช้ร่างกายอย่างสมดุลและมีประโยชน์สำหรับทุกเพศและวัย ไม่จำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นตัวขณะเริ่มต้นฝึกฝน เดิมโยคะจะได้รับความนิยมมากในวงกันเองของอาจารย์และผู้ที่สนใจศาสตร์ศิลปะ แต่ยุคทำโยคะเป็นวิถีชีวิตสุขภาพและสมดุลที่มากขึ้น ท่าโยคะเบื้องต้นถูกนำมาใช้ในเส้นทางฝึกฝนสุขภาพทั้งกายและจิตของคนทั่วไป และไม่จำเป็นต้องทำแบบเต็มรูปแบบเหมือนกับนักศึกษาโยคะก่อนหน้านี้

ท่าโยคะเบื้องต้นสามารถเรียนรู้ได้ง่ายๆ สำหรับผู้ที่สนใจที่จะเริ่มต้นฝึกโยคะ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ควรติดต่ออาจารย์โยคะเพื่อให้การฝึกฝนอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือการเพิ่มความเข้าใจในโยคะเบื้องต้นผ่านคลิปวิดีโอและหนังสือที่ตีพิมพ์มากมายในตลาด

องค์ประกอบของท่าโยคะเบื้องต้นมีอยู่สามเท่า ซึ่งประกอบไปด้วยการยืดตัว การงอตัว และการหายใจ การยืดตัวเป็นการขยับร่างกายให้เหมาะสม อยู่ในท่าที่สร้างสมดุลกับร่างกาย การงอตัวเป็นการบีบอัดรูปร่างให้มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ส่วนการหายใจเป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าและหายใจอย่างช้าๆ จะช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจสบายขึ้น

เริ่มต้นท่าโยคะเบื้องต้นด้วยท่าชั้นลำตัวลงเสื่อกีฬาหรือพื้น ยืดลำตัวขากว้างเท่ากับหน้าของสะโพก จากนั้นก้มลำตัวลงเพื่อทั้งตัวไปถึงเส้นสะโพก อย่าลืมให้แขนแยกออกด้านข้าง หันหน้าบนสะโพกระดับของผิวหนัง และสวมใส่ท่าแปดเปื้อนของช่วงคอ ค่าใช้จ่ายร่างกายไว้กับพื้นยางเส้นเพิ่มมากขึ้นข้างหน้าหลังศีรษะ ถ้าคุณหมายเลยไว้กับการออกกำลังกาย

ท่าีโยคะเบื้องต้นได้แก่ ท่าเจาะจงคลับ ท่าคลาสสีน้า ท่าคลาสส์เคท ท่าอบเชยแก้ตื้นมือขวา ท่าอาบเชยขาข้าง ในการทำท่าโยคะเหล่านี้ ให้ใช้แรงงานถ่ายเสียงเพื่อเตือนใจและให้ใจมีสมาธิ จะได้ความผ่อนคลายกับโลกใบนี้ได้เป็นอย่างดี

จากข้อมูลดังกล่าว ท่าโยคะเบื้องต้นนั้นช่วยให้ร่างกายและจิตใจของเราได้พัฒนาและสมดุลในทุกๆ ด้าน สุขภาพใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตประจำวัน และโยคะเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการดูแลใจของคุณ

FAQs:

Q: ท่าโยคะเบื้องต้นเหมาะกับผู้ที่มีรูปร่างที่ไม่ยืดหยุ่นหรือหนาโดยเฉพาะหรือไม่?
A: ท่าโยคะเบื้องต้นเหมาะสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุหรือผู้วัยกลางคน ไม่จำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นหรือพละกำลังเพื่อเริ่มต้น โยคะเบื้องต้นดูแลสุขภาพกายและจิตให้แข็งแกร่งในทุกเพศและวัย

Q: ฉันอยากเรียนโยคะเบื้องต้น ควรหาที่ไหนเพื่อเรียนรู้?
A: การมีอาจารย์โยคะจะช่วยในการแนะนำและปรับแต่งท่าโยคะให้ถูกต้อง คุณสามารถติดต่อโรงเรียนโยคะในพื้นที่ของคุณหรือค้นหาคลิปวิดีโอและหนังสือฝึกฝนออนไลน์เพื่อเรียนรู้แบบอิสระได้

Q: ท่าโยคะเบื้องต้นช่วยลดความเครียดและดันสูงหรือไม่?
A: ใช่, ท่าโยคะเบื้องต้นช่วยในการลดความเครียดและทำให้ร่างกายผ่อนคลายได้ การเคลื่อนไหวและการหายใจช้าๆ ช่วยลดความกังวลและมีผลกระทบบวกต่อฟังก์ชันการทำงานของตัวบอดี้

Q: ท่าโยคะเบื้องต้นเหมาะกับการฝึกฝนทุกวันหรือต้องมีวันพัก?
A: การฝึกโยคะเบื้องต้นเหมาะสมที่จะฝึกกลุ่มหรืออย่างน้อยสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ การบริหารจัดการเวลาในการฝึกโยคะอย่างสมดุลจะช่วยให้คุณพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Q: มีท่าโยคะเบื้องต้นใดที่เหมาะสำหรับสุนัขหรือแมวไหม?
A: มีท่าโยคะเบื้องต้นบางอย่างที่ให้สามารถนำมาฝึกฝนร่วมกับสุนัขหรือแมวได้ เช่น ท่าเงา ท่าขางอ แต่ขอแนะนำให้คุณรับปรึกษาสัตวแพทย์หรือครูโยคะก่อนเพื่อรับคำแนะนำในการฝึกฝนที่เหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ

พบ 16 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ โยคะ เบื้องต้น 10 ท่า.